������ ประวัติศาสตร์หน้าใหม่พรีเมียร์ลีก หลัง "หงส์แดง" บุกไปคว้าชัยเหนือสเปอร์ส 1-0 จากประตูชัยของ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ส่งผลให้ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เก็บได้ถึง 61 แต้มจาก 21 นัด (ชนะ 20 เกม) ทำลายสถิติเก่าของแมนฯซิตี้ที่ทำไว้ 59 คะแนนเมื่อ 2 ซีซั่นก่อน โดยทิ้งอันดับ 2 เลสเตอร์ ถึง 16 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่าหนึ่งนัด ขณะที่ สเปอร์ส สะดุดอีกไร้ชัย 4 เกมติดทุกรายการ ในเกมพรีเมียร์ลีก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 11 ม.ค. ที่ผ่านมา
สนาม : ท็อตแน่ม ฮอทสเปอร์ สเตเดี้ยม
��� "ไก่เดือยทอง" ไม่ชนะมา 3 เกมติดทุกรายการล่าสุดผลงานในลีกบุกไปพ่าย เซาธ์แฮมป์ตัน 0-1 ก่อนบุกไปเสมอกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ในเอฟเอ คัพ 1-1 เกมนี้เปิดบ้านทำบิ๊กแมตช์กับจ่าฝูง ลิเวอร์พูล ที่เล่นมา 20 เกมยังไม่แพ้ทีมใดเลย ผลงานในลีกล่าสุดเปิดรังเชือด เชฟฯยูไนเต็ด 2-0 ก่อนจะบดเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน หวุดหวิด 1-0 ในถ้วยเอฟเอ คัพ
��� โชเซ่ มูรินโญ่ ปวดหัวเมื่อต้องไร้ แฮร์รี่ เคน หัวหอกตัวเก่งที่เจ็บยาวถึงเดือนเมษายน เกมนี้ส่ง ซน ฮึง มิน เป็นหน้าเป้า โดยมี เดเล่ อัลลี่ และลูคัส มูร่า ยืนหน้าต่ำ ขณะที่ไอ้หนู ยาเฟต ทันกันก้า เซ็นเตอร์แบ็กดาวโรจน์ได้ประเดิมสนามนัดแรกในลีก
��� ขณะที่ทางฝั่ง เจอร์เก้น คล็อปป์ ยึดชุดเดิมเป็นแกนหลัก เปลี่ยนแดนกลางแค่คนเดียวส่ง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ลงตัวจริง โดยใช้สามประสานแนวรุกทั้ง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่ และซาดิโอ มาเน่ เจ้าของแข้งแอฟริกันยอดเยี่ยมคนล่าสุด
��� เปิดฉากมาได้แค่ 3 นาทีแรก แฟนลิเวอร์พูล เกือบได้เฮก่อนเลย หลัง อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน ตักบอลเข้าแนวรับให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ เข้าไปในกรอบก่อนล็อคเข้าซ้ายแล้วยิง ทว่าบอลไปติดบล็อค ยาเฟต ทันกันก้า แม้จังหวะซ้ำของ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน จะอัดเต็มแรงเข้าไปแต่บอลพุ่งไปชนเสาไกลก่อนมาชนไอ้หนู ทันกันก้า ก่อนไปเข้ามือ เปาโล กัซซานิก้า
��� นาที 5 เจ้าบ้านตอบโต้ขึ้นมาเช่นกัน และได้โอกาสทักทายหนแรกหลัง ลูคัส มูร่า ได้บอลทางซ้ายก่อนตัดเข้ากลางหนี โจ โกเมซ และเฮนเดอร์สัน ก่อนสับไกซัดด้วยขวานอกกรอบพุ่งเฉียดเสาแรกออกไป
��� อีกสองนาทีถัดมา เฮนเดอร์สัน เกือบทำให้ทีมตกที่นั่งลำบากหลังทำเสียบอลกลางสนาม ก่อนโดน ซน ฮึง มิน แย่งบอลแล้วลากเข้าไปปั่นนอกกรอบ ยังดีบอลหลุดเสาออกไป
��� นาที 13 เดเล่ อัลลี่ ทำป่วนอีกหลังกระชากขึ้นหน้าก่อนยิงหน้ากรอบแต่บอลเหินคานออกหลังไปไกล
��� เจ้าถิ่นไก่เดือยทอง ยังได้ลุ้นต่อเนื่อง นาที 21 ลูคัส มูร่า ไหลต่อให้ คริสเตียน เอริกเซ่น อัดด้วยซ้ายนอกกรอบจน อลิสซอน ต้องออกแรงเซฟ
��� อีกนาทีต่อมา "หงส์แดง" ได้ลุ้นบ้าง หลัง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน เปิดโค้งไปเสาไกลให้� เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค โขกจ่อๆ แต่โหม่งไม่ดีไปตรงตัว เปาโล กัซซานิก้า ทุบออกไป
��� นาที 35 "หงส์แดง" ได้โอกาสจบเช่นกันหลัง ฟีร์มีโน่ จ่ายเข้าหน้ากรอบให้ ซาดิโอ มาเน่ เอี้ยวตัววอลเลย์ฟาดลงพื้นก่อนบอลเหินออกหลังไป
��� นาที 37 ลิเวอร์พูล บุกมาขึ้นนำสเปอร์ส 1-0 จนได้ บอลเริ่มจาก แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ทุ่มบอลเข้ามาให้ ฟีร์มีโน่ ก่อนโดน อัลเดอร์ไวเรลด์ โขกสกัดไปเข้าทาง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่โขกบอลยัดเข้ากลางให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สะกิดเร็วให้ โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ดึงจังหวะหลอกไอ้หนู ทันกันก้า แล้วอัดด้วยซ้ายเต็มข้อส่งบอลตุงตาข่ายอย่างเด็ดขาด
��� นาที 42 หงส์แดงเกือบได้ลุ้นเม็ดสอง หลัง ซาลาห์ ใช้ความเร็วกระชากเข้าไปยิงด้วยซ้ายแต่บอลหลุดเสาแรกออกไปหวุดหวิด
��� จบครึ่งแรก สเปอร์ส ตามหลัง ลิเวอร์พูล 0-1
���
��� ครึ่งหลัง นาที 46 "ไก่เดือยทอง" หวิดได้ลูกตีเสมอหลัง แซร์จ โอริเย่ร์ จ่ายให้ ลูคัส มุร่า พาบอลเข้าไปยิงด้วยขวาในกรอบแต่บอลก็หลุดกรอบออกไปแบบได้เสียว
��� นาที 57 เดเล่ อัลลี่ พาบอลตะลุยเข้าไปในกรอบก่อนโดน ฟาน ไดจ์ค ล้มตัวสกัดบอลมาถึง แซร์จ โอริเย่ร์ อัดด้วยขวาเต็มแรงแต่บอลพุ่งเข้าหาตัว อลิสซอน รับไว้ได้ไม่มีปัญหา
��� เจ้าถิ่นโหมบุกอย่างหนักต่อเนื่อง นาทีที่ 60 คริสเตียน เอริกเซ่น วางบอลยาวให้ ซน ฮึง มิน โยกหลบ เทรนต์ อาร์โนลด์ ก่อนยิงด้วยขววาไปแฉลบ โจ โกเมซ ถากเสาออกไป
��� นาที 65 ทีมเยือนพลาดได้ประตูนำห่างอีก หลัง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ บรรจงหยอดบอลมาให้ ซาดิโอ มาเน่ เทกตัวโขกจ่อๆแต่บอลก็ยังไปติดมือของ กัซซานิก้า ช่วยทัพไก่ไว้ได้อีก
��� นาที 70 หงส์แดงทำพลาดเสียบอลจากกลางสนามอีกครั้ง บอลเลยมาถึง ลูคัส มูร่า หน้าประตูก่อนป้ายออกซ้ายให้ ซน ฮึง มิน หนีตัวประกบแล้วอัดด้วยขวาเหินคานอย่างน่าเสียดาย
��� นาที 82 "ไก่เดือยทอง" พลาดโอกาสทวงประตูคืนอย่างน่าเสียดาย หลัง แซร์จ โอริเย่ร์ ครอสบอลไปในกรอบ 6 หลา โจวานนี่ โล เซลโซ่ พุ่งมาเข้าชาร์จแต่บอลผ่านหน้าปากประตูออกไป
��� นาทีสุดท้าย ลิเวอร์พูล หวิดได้บวกประตูที่สองหลัง ดิว็อค โอริกี โชว์สเต็ปลากเข้าไปยิงแต่บอลก็ยังไม่ผ่านมือ กัซซานิก้า ที่เซฟหวุดหวิด
��� ช่วงเวลาที่เหลือ แม้ลูกทีมของ มูรินโญ่ จะโหมบุกเข้าใส่ แต่ไม่สามารถทวงประตูตีเสมอคืน ก่อนจบเกม สเปอร์ส พ่ายคาบ้านให้ ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 0-1 ทำให้ "หงส์แดง" มีเพิ่มเป็น 61 คะแนนจาก 21 เกมที่ลงเตะนับเป็นการออกสตาร์ทลีกที่ดีที่สุดใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป ทั้งยังเป็นสถิติใหม่ของพรีเมียร์ลีก ทุบสถิติเดิมของ แมนฯซิตี้ ที่ทำไว้ 59 แต้ม เมื่อสองซีซั่นก่อน โดยทิ้งอันดับ 2 เลสเตอร์ ซิตี้ ที่วันนี้พ่ายคาบ้านถึง 16 คะแนน แถมแข่งน้อยกว่าอีก 1 นัด
�������� รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
������� สเปอร์ส (3-4-2-1) : เปาโล กัซซานิก้า - โทบี้ อัลเดอร์ไวเรลด์, ดาวินซอน ซานเชซ, ยาเฟต ทันกันก้า - แซร์ช โอริเย่ร์, คริสเตียน เอริกเซ่น (โจวานนี่ โล เซลโซ่ น.69) , แฮร์รี่ วิงค์ส, แดนนี่ โรส (เอริก ลาเมล่า น.69)� - เดเล่ อัลลี่, ลูคัส มูร่า - ซน ฮึง-มิน
������� ผู้จัดการทีม : โชเซ่ มูรินโญ่
������� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โจ โกเมซ, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, อเล็กซ์ อ็อกเลด-แชมเบอร์เลน (อดัม ลัลลาน่า น.61), จอร์จินโย่ ไวจ์นัลดุม - โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (เซอร์ดาน ชากิรี่ น.90+1), โรเบอร์โต้ ฟิร์มิโน่, ซาดิโอ มาเน่ (ดิว็อก โอริกี้ น.81)
������� ผู้จัดการทีม : เจอร์เก้น คล็อปป์
������� ผู้ตัดสิน : มาร์ติน แอตกิสัน