������� เจมี่ เร้ดแน็ปป์ ชี้ จุดเปลี่ยนที่ทำให้ ลิเวอร์พูล เป็นสุดยอดทีมเหมือนอย่างในทุกวันนี้คือการที่พวกเขาเคยพ่าย สเปอร์ส 1-4 เมื่อปี 2017 ระบุ ตอนนั้นเกมรับของ "หงส์แดง" เปื่อยยุ่ยสุดๆ
��� เจมี่ เร้ดแน็ปป์ อดีตยอดกองกลางของ ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งวงการ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ แสดงความเชื่อว่าการที่ "หงส์แดง" แพ้ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่สนม เวมบลีย์ ในลีกแบบขาดลอยถึง 1-4 เมื่อช่วงเดือนตุลาคม ปี 2017 คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ลิเวอร์พูล มีผลงานที่ยอดเยี่ยมเหมือนอย่างในทุกวันนี้
��� ในวันนั้น สเปอร์ส ทำได้ถึง 2 ประตูตั้งแต่ช่วง 12 นาทีแรกของเกม ถึงแม้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะตีตื้นให้ทีมเยือนได้ในนาทีที่ 24 แต่หลังจากนั้น "ไก่เดือยทอง" ก็มาได้อีก 2 ประตู โดยเกมนั้น เจอร์เก้น คล็อปป์ ผู้จัดการทีม ลิเวอร์พูล ถึงขั้นเปลี่ยนเอา เดยัน ลอฟเรน กองหลังชาวโครเอเชียออกจากสนามตั้งแต่นาทีที่ 31 เลย
��� นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คล็อปป์ ก็พยายามทำให้เกมรับมีความแข็งแกร่งขึ้น จนทำให้ ลิเวอร์พูล มีผลงานที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดที่ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน ด้วยการชนะ สเปอร์ส ในนัดชิงชนะเลิศ แถมในซีซั่นนี้พวกเขาก็กำลังนำโด่งเป็นจ่าฝูงของลีก และหลายคนก็มองว่า ลิเวอร์พูล มีโอกาสชนะ สเปอร์ส สูงพอตัว ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมต้องเจอกันที่ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ สเตเดี้ยม วันเสาร์ที่ 11 มกราคมนี้
��� เร้ดแน็ปป์ เผยว่า "การแพ้ในวันนั้นทำให้ ท็อตแน่ม เป็นอันดับ 3 ของตารางคะแนน ส่วน ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 9 พอมองย้อนกลับไปแล้วคุณก็คงเห็นว่าผลการแข่งขันในวันนั้นมันสำคัญกับ คล็อปป์ มากแค่ไหน ตอนนั้นพวกเขา (ลิเวอร์พูล) เล่นเกมรับกันได้แย่มากๆ พวกเขาเสียประตูในช่วงต้นฤดูกาลเยอะที่สุดนับตั้งแต่ปี 1964"
��� "หลังจบเกมนั้นกุนซือชาวเยอรมันก็พูดขึ้นมาเลยว่า -วันนี้มันไม่ใช่ว่า ท็อตแน่ม จำเป็นต้องเล่นให้ดีเลิศเพื่อที่จะทะลวงแนวรับของเราเลย- แล้วเราก็ได้เห็นกันว่าเขาตัดสินใจที่จะตอบสนองต่อเรื่องนั้นยังไง"