���� เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ กองหลัง ลิเวอร์พูล ระบุ ถ้าเกิดตนอดรางวัล บัลลง ดอร์ ในปีนี้ มันก็ไม่ถือว่าตนเป็นผู้แพ้ เพราะแค่มีชื่อเข้าชิงก็ถือว่าเจ๋งแล้ว ชี้ มีแค่ไม่กี่คนที่จะได้อยู่ในกลุ่มลุ้นรางวัลใหญ่ขนาดนี้
��� เฟอร์กิล ฟาน ไดค์ ปราการหลังคนเก่งของ ลิเวอร์พูล ยอดสโมสรแห่งเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กล่าวว่าต่อให้ตนจะไม่ได้รางวัล บัลลง ดอร์ ประจำปี 2019 ในวันจันทร์ที่ 2 ธันวาคมนี้ มันก็ไม่ถือว่าตนเป็นผู้แพ้แต่อย่างใด เพราะแค่การได้มีชื่อเข้าชิงรางวัลนี้ก็ถือว่าน่าภูมิใจมากพอแล้ว
��� ตลอดช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้แทบทุกคนต่างก็มองว่า ฟาน ไดค์ เป็นเต็ง 1 ที่จะได้รางวัลลูกฟุตบอลทองคำในปีนี้ไปครอง หลังจากซีซั่นก่อนทำผลงานได้โดดเด่นจนพา ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และเกือบที่จะได้แชมป์ลีกมาครอง รวมถึงพา ฮอลแลนด์ เป็นรองแชมป์ศึก ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก เมื่อช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาด้วย ขณะที่ซีซั่นนี้เขาก็กำลังช่วยให้ "หงส์แดง" เป็นจ่าฝูงของลีก
��� อย่างไรก็ตาม ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมากระแสมันเทไปในทิศทางที่ว่า ลิโอเนล เมสซี่ ดาวยิง บาร์เซโลน่า จะได้รางวัล บัลลง ดอร์ ไปเชยชม โดย มุนโด้ เดปอร์ติโบ สื่อของแคว้นกาตาลุนย่าเคยประโคมข่าวว่า เมสซี่ ได้รับคะแนนโหวตเข้ามาเป็นที่ 1 และในอินเตอร์เน็ตมันก็มีการโพสต์ภาพผลคะแนนที่แสดงให้เห็นว่า เมสซี่ ได้คะแนนมากที่สุดจริงๆ
��� ฟาน ไดค์ เผยว่า "ในคืนนั้นมันจะไม่มีผู้แพ้แต่อย่างใด ผมภูมิใจมากๆ ที่ได้อยู่ในกลุ่มที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิง ผมได้อยู่ในกลุ่มนั้นจากฟอร์มที่ผมทำได้กับต้นสังกัดเมื่อฤดูกาลก่อน รวมถึงจากฟอร์มที่ผมทำได้กับทีมชาติด้วย แค่สิ่งนั้น (การถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล) มันก็ถือว่าน่าภูมิใจมากๆ แล้ว เพราะมีนักเตะแค่ไม่กี่คนหรอกที่จะได้มีลุ้นรางวัลแบบนี้ ในค่ำคืนนั้นมันจะไม่มีผู้แพ้ เราจะมารอดูกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น"