เจมี่ คาร์ราเกอร์ อดีตกองหลังคนดังของ ลิเวอร์พูล ยืนกรานว่า "หงส์แดง" ไม่ควรจะทุ่มค่าเหนื่อยก้อนโตให้กับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ มากจนเกินไป โดยบอกว่าที่ผ่านมา "หงส์แดง" ได้ดีเพราะการบริหารที่ยึดความสมเหตุสมผลเป็นหลัก
ตลอดช่วงที่ผ่านมาเรื่องสัญญาของ ซาลาห์ ถือเป็นหนึ่งในประเด็นร้อนของ ลิเวอร์พูล หลังจากเขาเหลือสัญญากับทีมจนถึงช่วงซัมเมอร์ ปีหน้าเท่านั้น ซึ่งไม่นานมานี้ ซาลาห์ ก็เพิ่งให้สัมภาษณ์ว่าผิดหวังที่ต้นสังกัดยังไม่ยื่นสัญญาฉบับใหม่ให้พิจารณาเลย พร้อมบอกเป็นนัยว่าอาจจะไม่ได้อยู่กับทีมต่อไปก็ได้
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ คาร์ราเกอร์ ออกมาตำหนิ ซาลาห์ ว่าทำไม่ถูกที่ให้สัมภาษณ์แบบนั้น และล่าสุดถึงแม้ ซาลาห์ จะช่วยให้ทีมชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ แต่อดีตกองหลังชาวอังกฤษก็บอกว่า ลิเวอร์พูล ไม่ควรจะจ่ายเงินให้ ซาลาห์ มากเกินเหตุ พร้อมบอกว่า "หงส์แดง" มีทุกวันนี้ได้เพราะบริหารทีมโดยที่ไม่ได้ตามใจใครง่ายๆ
คาร์ราเกอร์ เผยว่า "ผมไม่มีปัญหาอะไรกับ โม ซาลาห์ และ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ แม้แต่นิดเดียว พวกเขาทั้งคู่อยู่ในกลุ่มนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลที่เคยเล่นให้ ลิเวอร์พูล เรารู้ดีว่า ลิเวอร์พูล เป็นทีมที่บริหารโดยยึดเอาข้อมูลเป็นหลัก ด้วยเหตุนี้มันจึงไม่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากเต็มคำว่าเราดีใจที่ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ กลับมาอยู่กับทีม และพวกคนที่เคยทำงาด้านข้อมูลกลับมาอยู่กับทีม เพราะช่วงปลายยุคของ คล็อปป์ ทีมมีผลงานย่ำแย่"
"มันเป็นสถานการณ์แบบ มันนี่บอล (แนวทางการทำทีมที่ให้ความสำคัญเรื่องบริหารการเงินให้ดี มากกว่าการทุ่มเงินให้แค่คนใดคนหนึ่ง) และเราดีใจที่มันกลับมาเป็นแบบนั้น คุณไม่สามารถที่จะจู่ๆ มอบทุกอย่างตามที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องการได้ ในกรณีของ ฟาน ไดค์ กับ ซาลาห์ น่ะนะ ถ้าเกิด ลิเวอร์พูล มีกฎว่าจะมอบสัญญาที่มีระยะเวลาใดระยะเวลาหนึ่งให้กับนักเตะที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปแล้วล่ะก็ คุณก็ต้องบริหารทีมด้วยข้อมูลกับนักเตะแบบนั้น"
"ผมไม่ได้จะบอกว่าเขา (ซาลาห์) ไม่ควรได้สัญญาที่มีระยะเวลา 2 ปี และไม่ได้บอกด้วยว่าเขาไม่ควรจะได้เงินก้อนโต ซึ่งที่จริงตอนนี้เขาก็ได้เงินก้อนโตตามที่สมควรได้รับอยู่แล้วน่ะนะ แต่ไอ้แนวคิดที่ว่า -เขาอยากได้เท่าไหร่ก็ให้ไปเถอะ- มันไม่ถูก สโมสรแห่งนี้ไม่ได้สร้างขึ้นโดยยึดแนวทางที่ว่าต้องให้ทุกอย่างตามที่ใครคนใดคนหนึ่งต้องการ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้สโมสรประสบความสำเร็จตลอดช่วงที่ผ่านมา"
"สโมสรแห่งนี้นำหน้าทีมอื่นอยู่เสมอ กรณีตัวอย่างก็คือการซื้อ โม ซาลาห์ ด้วยค่าตัว 40 ล้านปอนด์ ในตอนที่ไม่มีทีมไหนใน พรีเมียร์ลีก ที่ชายตามองเขาเลย ลิเวอร์พูล นำหน้าทุกฝ่ายอยู่เสมอ"