เจอร์เก้น คล็อปป์ เข้าร่วมชมการแข่งขัน แบดมินตันชายในศึก พาราลิมปิก เกมส์ 2024 เพื่อเชียร์ วอยเท็ค ซิซ นักกีฬาทีมชาตินิวซีแลนด์ที่ถือเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขา
วอยเท็ค ซิซ ที่จริงแล้วเป็นคนเยอรมัน และเคยเป็นคนที่มีอวัยวะครบทุกส่วน รวมถึงเคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน แต่ในปี 2001 ตอนที่เขาเล่นให้ เอสซี ฟอร์ทูน่า โคโลญจ์น นั้น เจ้าตัวโดนผู้รักษาประตูของทีมคู่แข่งกระแทกใส่หัวเข่าอย่างรุนแรงตอนที่กำลังวิ่งจะไปเล่นบอล จนทำให้กระดูกหลายท่อนหัก รวมถึงทำให้เกิดภาวะความดันในช่องปิดกล้ามเนื้อสูงด้วย
สุดท้ายแล้วแพทย์จำเป็นต้องผ่าท่อนล่างตรงขาซ้ายของ ซิซ ทิ้งเลย หลังจากมีการให้การรักษาช้าเกินไป ก่อนที่เจ้าตัวตัดสินใจเป็นนักกีฬาคนพิการในประเภทกรีฑา และเคยได้เหรียญรางวัลพาราลิมปิก เกมส์ มาแล้วถึง 7 เหรียญ โดยเป็นเหรียญทองถึง 4 เหรียญ ประกอบด้วย กระโดดไกลประเภท F42/F44 ในปี 2004, วิ่ง 100 เมตรชายประเภท T42 ในปี 2004, วิ่ง 200 เมตรชายประเภท T42 ในปี 2004 และ กระโดดไกลประเภท F42/F44 ในปี 2008 แถมเจ้าตัวยังเคยทำลายสถิติโลกได้ด้วย
ทั้งนี้ ในศึก พาราลิมปิก เกมส์ 2024 วอยเท็ค ซิซ เปลี่ยนมาแข่งกีฬาแบดมินตันและเล่นให้กับทีมชาตินิวซีแลนด์ โดยเขาเพิ่งเริ่มเล่นแบดมินตันแบบจริงๆ จังๆ เมื่อราว 3 ปีก่อนเท่านั้น หลังจากเคยลองเล่นอยู่บ้างสมัยที่ยังเป็นเด็ก ซึ่งในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มเขาแพ้ แดเนี่ยล เบเธลล์ มือ 2 ของรุ่นไป 0-2 เกม ด้วยสกอร์ 5-21 กับ 2-21 ซึ่งบนอัฒจันทร์มี เจอร์เก้น คล็อปป์ มาคอยเชียร์เขาด้วย จนทำให้เป็นเรื่องฮือฮาพอสมควร
สำหรับ คล็อปป์ กับ ซิซ เป็นเพื่อนกันมาเกิน 20 ปีแล้ว โดยพวกเขาเจอกันตอนที่ ซิซ ทำกายภาพบำบัด ขณะที่ในปี 2002 ซิซ เคยเล่นเกมการกุศลในนัดที่เจอกับ ไมน์ซ ที่ตอนนั้นมี คล็อปป์ เป็นกุนซือด้วย ซึ่งตอนนั้น คล็อปป์ ให้คำมั่นสัญญาเลยว่าจะคอยสนับสนุนเพื่อนรายนี้อย่างเต็มที่ โดยพวกเขาติดต่อกันอยู่เรื่อยๆ ตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
คล็อปป์ มักจะเอาเรื่องของ ซิซ มาพูดกับนักเตะในทีมที่เขาเป็นกุนซือให้มากกว่า 500 ครั้งเช่นกัน เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้นักเตะ และพอรู้ว่าเพื่อนสนิทจะร่วมลงแข่ง พาราลิมปิก เกมส์ 2024 ด้วยนั้น เขาก็ตามมาเชียร์อีกฝ่ายทันที
อดีตกุนซือ ไมน์ซ, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ลิเวอร์พูล เผยว่า "เรื่องของเขาเป็นเรื่องราวที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจได้ดีที่สุดเท่าที่ผมเคยได้ยินมาตลอดชีวิตของผมเลย มันจำเป็นต้องมีการบอกต่อเรื่องราวนี้ให้กับคนอื่นๆ มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา เพื่อนของผมเป็นคนที่พิเศษสุดๆ"
"ผมรักกีฬาก็เพราะแบบนี้แหละ มันสามารถเปลี่ยนโลกได้ บางครั้งอาจจะเปลี่ยนได้แค่พักเดียว และบางครั้งก็อาจจะเปลี่ยนโลกได้ตลอดกาล เราเคยเจอกับเรื่องแบบนั้นมาแล้วตอนที่มีการแข่ง โอลิมปิก ในกรุงปารีส ก่อนหน้านั้นโลกเจอกับวิกฤติครั้งใหญ่ แต่ในช่วง 2 สัปกดาห์ครึ่ง (ของการแข่ง โอลิมปิกเกมส์) เราลืมเรื่องแย่ๆ เหล่านั้นไปเลย กีฬามันยอดเยี่ยมก็เพราะเรื่องแบบนี้ และ พาราลิมปิก ก็สามารถทำแบบนั้นได้เช่นกัน"
ขณะที่ ซิซ บอกว่า คล็อปป์ เป็นคนที่มีความสำคัญกับตนมากๆ พร้อมบอกว่ามันเป็นเรื่องดีที่คนดังแบบ คล็อปป์ ให้ความสำคัญกับการแข่งกีฬาของคนพิการ "เจอร์เก้น เป็นเหมือนครอบครัวของผม เขาอยากมาที่นี่ แต่เขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อที่จะเชียร์ผมเท่านั้นหรอกนะ เจอร์เก้น มาที่นี่ก็เพื่อจะบอกว่า พาราลิมปิก เป็นรายการที่วิเศษ เราอยากให้คนระดับ เจอร์เก้น หันมาให้ความสำคัญกับรายการแบบนี้ ที่จริงเราฉลองกันไปแล้วตอนที่ผมได้โควตาเข้าแข่งรายการนี้ หลายคนบอกว่าผมทำไม่ได้หรอก แต่เขาบอกว่า -ถ้าฉันพอจะช่วยอะไรได้บ้างล่ะก็ ฉันก็จะพร้อมอยู่เคียงข้างนาย"
หลังจบการแข่งขันนั้น คล็อปป์ ให้สัมภาษณ์แบบติดตลกด้วยว่า "ผมสนุกกับทั้ง 7 แต้มที่เพื่อนของผมทำได้ ตอนนี้เขาอายุ 44 ปีเข้าไปแล้วนะ 44 ปีเลย ว่าแต่เรามาอยู่ในโซนให้สัมภาษณ์กับสื่อได้ยังไงกันเนี่ย ? ไม่เห็นมีใครบอกผมเกี่ยวกับเรื่องนี้เลย!"
คล็อปป์ บอกด้วยว่าภูมิใจในตัวเพื่อนของเขามากๆ "ผมยืนอยู่ข้าง เอเลน่า และเราต่างร้องไห้ ผมรู้ดีว่าในเกมกีฬามีผลการแข่งขันและชัยชนะ แต่มันมีความหมายมากกวาานั้น การได้มาอยู่ที่นี่ถือเป็นเรื่องที่น่าประทับใจอยู่เสมอ ผมพูดไม่ถูกเลย มันน่ายินดีสุดๆ เมื่อวานนี้เรายืนข้างกันหน้าหอไอเฟล และเราต่างก็คิดว่า -ว้าว! ทำได้อีกครั้งแล้วนะ! มันเป็นเรื่องที่พิเศษมากๆ"
"ผมภูมิใจในตัวเขาสุดๆ การที่เขาได้สิทธิ์เข้าแข่ง พาราลิมปิก อีกครั้งในกีฬาที่ต่างจากเดิมมันยอดเยี่ยมมากๆ ลองนึกตามสิว่ามันเป็นยังไงเมื่อจู่ๆ คุณตัดสินใจในวันรุ่งขึ้นว่า -มันน่าจะเป็นไอเดียที่ดีนะที่ฉันจะลงแข่ง โอลิมปิก หรือ พาราลิมปิก- ตามด้วยการคิดว่า -โดยแข่งกีฬาที่ฉันเคยเล่นแค่ตอนเป็นเด็กน่ะนะ ?- เขาเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อมากๆ"
"เราทั้งคู่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถทำในสิ่งที่ผมไม่กล้าพอที่จะทำได้อยู่เรื่อยๆ เขาเพิ่งบอกผมเมื่อวานนี้เองว่าการดำน้ำร่วมกับฉลามมันเป็นเรื่องที่ง่ายมากแค่ไหน ผมเลยตอบไปว่า -เออ ฉันได้ยินแล้ว แต่ฉันก็จะยังไม่ทำอยู่ดีว่ะ-"
ในช่วงหนึ่งนั้น ซิซ บอกด้วยว่าวันนี้ไม่ใช่วันที่ดีของตน แต่ คล็อปป์ ก็ให้กำลังใจเพื่อนด้วยการบอกว่า "เดี๋ยวๆๆ นี่เพิ่งเป็นจุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่ใช่ตอนจบสักหน่อย" จนทำให้ ซิซ ยิ้มออกพร้อมกับพูดว่า "เพราะงี้ไงผมเลยต้องมีคนอย่าง เจอร์เก้น นี่คือการปลุกใจที่ดี" โดยที่ คล็อปป์ ก็บอกว่า "ผมก็แค่พูดเรื่องที่มันชัดเจนอยู่แล้วกับเขาเท่านั้นเอง"
ขณะที่ เบเธลล์ คู่แข่งที่ชนะ ซิซ ได้นั้น บอกว่ามันเป็นเรื่องดีมากๆ ที่คนแบบ คล็อปป์ มาชม พาราลิมปิก เกมส์ ด้วย "มันเป็นเรื่องยอดเยี่ยมที่คนดังแบบนี้ในโลกกีฬามาชม พาราลิมปิกส์ และมาเชียร์กีฬาแบดมินตันของ พาราลิมิกส์ มันจะเป็นอีก 1 อย่างที่ผมจะจดจำจากการแข่ง พาราลิมปิกส์ ครั้งนี้ไปตลอดชีวิตเลย"