�������� ที่นี่ไม่ใช่แอนฟิลด์! ลิเวอร์พูล คืนฟอร์มแกร่งหลังบุกเชือด "หมาป่า" 1-0 จากประตูชัยของ ดิโอโก้ โชต้า ซัดทีมเก่าพา "หงส์แดง" เก็บเพิ่มเป็น 46 คะแนนขยับขึ้นอันดับ 6 มีแต้มเท่า เอฟเวอร์ตัน แต่ประตูได้-เสียดีกว่าและแข่งมากกว่า 1 นัด ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ผ่านมา
������� สนาม : โมลินิวซ์ สเตเดี้ยม
���� นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้ กุนซือวูล์ฟแฮมป์ตัน พาทีมเสมอ แอสตัน วิลล่า มา 0-0 ในเกมล่าสุด ทำให้ตอนนี้พวกเขาไม่ชนะใครมา 3 เกมแล้ว
��� ทางด้าน เยอร์เก้น คล็อปป์ นายใหญ่ของ ลิเวอร์พูล พาทีมแพ้ฟูแล่ม 0-1 ในเกมลีกล่าสุด เป็นการแพ้ในบ้าน 6 นัดติด ก่อนที่พวกเขาจะไปเอาชนะไลป์ซิก 2-0 ในเกมยุโรป เป็นการคว้าชัยนัดแรกในรอบ 3 เกม
��� เปิดฉากครึ่งแรกแค่ 2 นาที "หงส์แดง" หวิดงานเข้าจากความผิดพลาดของ อลิสซอน เบ็คเกอร์ รับบอลหลุดมือไปชนตัว เนลซอน เซเมโด้ โชคดีเด้งย้อนมาเข้าทาง โอซาน คาบัค หวดทิ้งออกไปได้ทัน
��� นาทีที่ 5 "หมาป่า" เร่งเครื่องไม่หยุด อดาม่า ตราโอเร่ เก็บบอลก่อนแทงออกขวาเข้าเขตโทษให้� เนลซอน เซเมโด้ สอดขึ้นมาดึงหลบ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน อัดด้วยซ้ายติดเซฟ อลิสซอน เบ็คเกอร์ แต่จากภาพช้าฟ้องว่า ตราโอเร่ ล้ำหน้าไปก่อนตั่งแต่จังหวะแรกแล้ว
��� ต่อมานาทีที่ 12 ทีมเยือน พลาดโอกาสทองจากลูกจ่ายสุดสวยของ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ซาดิโอ มาเน่� หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปแตะหลบ รุย ปาตริซิโอ แต่มุมยิงไม่มีต้องหมุนหาช่องอัดด้วยขวาไปติดบล็อคหลุดออกหลัง
��� ครึ่งทางผ่านเริ่มเป็น ลิเวอร์พูล ที่ทำได้ดีกว่าพาบอลเข้าพื้นที่อันตรายหลายครั้งจากความสามารถเฉพาะตัวของ ซาดิโอ มาเน่ เหลือแค่จังหวะจบสกอร์ที่ยังไม่ดีพอเอาชนะ รุย ปาตริซิโอ
��� นาทีที่ 38 จากจังหวะประสานงานสุดสวย ทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตักบอลเข้าเขตโทษตกใส่หัว ซาดิโอ มาเน่ สอดมาทิ้งตัวขวิดหลุดเสาแรกออกหลังนิดเดียว
��� นาทีที่ 44 จากฟรีคิกระยะร่วม 30 หลาของ รูเบน เนเวส วิ่งมาอัดด้วยขวาบอลผ่านกำแพงแต่ไปตรงตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์ ตะปปเอาไว้ได้ และจากจังหวะต่อเนื่อง จอนนี่ กาสโตร หลุดกับดักล้ำหน้าขึ้นมาทางซ้ายก่อนตักเข้าในข้ามมาเสาไกลถึง รูเบน เนเวส เก็บตกตั้งป้อมหวดด้วยขวาผ่านหน้าประตูออกหหลัง
��� ช่วงทดเจ็บนาทีที่ 45+2 "หงส์แดง" ทะยานออกนำจากจังหวะชุลมุนบอลโด่งมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่� ฝากทำชิ่งกับ ซาลาห์ สอดมารับคืนแปะเร็วเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ดิโอโก้ โชต้า ตวัดตามน้ำบอลเรียดติดปลายมือ รุย ปาตริซิโอ ปัดไม่พ้นเบียดเสาแรกเข้าไป
��� หมดครึ่งเวลาแรก วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 ลิเวอร์พูล 1
��� ครึ่งหลัง 3 นาทีผ่าน "หมาป่า" ลุยทันทีคราวนี้เป็น โรแม็ง ซาอิสส์ ปั๊มบอลได้ช่องตักด้วยซ้ายเข้าเขตโทษข้ามมาถึง คอเนอร์ เคาดี้ ขึ้นโขกคนเดียวเต็มหัวหลุดสามเหลี่ยมเสาไกลไม่ห่าง
��� นาทีที่ 65 กลายเป็น เจ้าถิ่น มีโอกาสตีเสมอมากว่าใช้ความเร็วปีกทั้งสองข้างเจาะแนวรับ ลิเวอร์พูล แต่จังหวะเปิดยังไม่ตรงเพื่อนแถมยังซัดไม่ตรงกรอบด้วยกันทั้งสองทีม
��� ก่อนหมดเวลา 15 นาทีจากจังหวะขยันของ ชูเอา มูตินโญ่ วิ่งตามมาดักบอลเด้งไปเข้าทาง อดาม่า ตราโอเร่ แต่งหาช่องตะบันด้วยขวาหน้ากรอบ 18 หลาเสียดายไปตรงตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� นาทีที่ 80 ลิเวอร์พูล หวิดบวกสกอร์เพิ่มเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเดี่ยวพาเข้าเขตโทษก่อนซัดด้วยขวาติดเซฟ รุย ปาตริซิโอ ปัดทิ้งออกมาจากจังหวะต่อเนื่องบอลมาเข้าทาง ซาดิโอ มาเน่ ฝากต่อให้ ดิโอโก้ โชต้า ปั่นอีกรอบก็ยังไม่ดีพอปิดกล่อง
��� ก่อนหมดเวลา 5 นาที "หงส์แดง" มาส่งท้ายจากจังหวะจ่ายของ อเล็กซ์ อ็อกซ์เลดแชมเบอร์เลน แทงช่องให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หลุดเข้าไปส่งบอลซุกก้นตาข่ายเสียดายมีธงล้ำหน้ายกตามขึ้นมา
���� ช่วงท้ายเกมหยุดไปร่วม 10 นาทีเนื่องจาก รุย ปาตริซิโอ นายทวาร วูล์ฟแฮมป์ตัน บาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะต้องส่ง จอห์น รัดดี้ ลงสนามเป็นตัวสำรองคนที่ 4 ด้วยกฎโควต้าเปลี่ยนตัวพิเศษ
���� นาทีที่ 106 ทีมเยือน ลุยขึ้นมาหวังปิดกล่องเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปั่นบอลหลุดเสาไกลออกหลังก่อนเป็นจังหวะของ ฟาบิโอ ซิลวา ขึ้นโขกในกรอบ 6 หลาไปตรงตัว อลิสซอน เบ็คเกอร์
��� หลังจากนั้นไม่มีสกอร์เพิ่ม จบเกม วูล์ฟแฮมป์ตัน 0 ลิเวอร์พูล 1
รายชื่อนักเตะที่ลงสนามตัวจริง
��� วูล์ฟแฮมป์ตัน (3-4-2-1) : รุย ปาตริซิโอ (จอห์น รัดดี้ น.90) - วิลลี่ โบลี่, คอเนอร์ เคาดี้, โรแม็ง ซาอิสส์ - เนลซอน เซเมโด้ (มอร์แกน กิ๊บส์-ไวท์ น.84), รูเบน เนเวส (เลอันเดร์ เดนดองเคอร์ น.76), ชูเอา มูตินโญ่, จอนนี่ กาสโตร - เปโดร เนโต้, อดาม่า ตราโอเร่ - วิลเลี่ยน โชเซ่ (ฟาบิโอ ซิลวา น.70)
เทรนเนอร์ :� นูโน่ เอสปิริโต้ ซานโต้
�
��� ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์ - เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, โอซาน คาบัค, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ติอาโก้ อัลกานตาร่า (นาบี เกอิต้า น.67), ฟาบินโญ่, จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม (เจมส์ มิลเนอร์ น.67) - โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า (อเล็กซ์ อ็อกซ์เลดแชมเบอร์เลน น.82), ซาดิโอ มาเน่�
เทรนเนอร์ : เจอร์เก้น คล็อปป์
�
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน