liverpool in thailand  
pg slot
 

Home
News Update
สั่งซื้อเสื้อแท้ลิเวอร์พูล
Columnist : Sockr
Leagues Table
ดูบอลสดออนไลน์
ดูบอลสดออนไลน์
ทีเด็ดบอล
Our Social
Facebook
Twitter
Instagram
 
   
Christian Poulsen




Team List
คริสเตียน โพลเซ่น : Christian POULSEN

ชื่อเต็ม : คริสเตียน เบเกอร์ โพลเซ่น
หมายเลขเสื้อ :
28
ตำแหน่ง : กองกลาง
เกิดเมื่อ : 28 กุมภาพันธ์ 1980
สถานที่เกิด : อาสเน่, เดนมาร์ก
สัญชาติ : เดนมาร์ก
ติดทีมชาติ : เดนมาร์กชุดใหญ่
ส่วนสูง : 182 เซนติเมตร น้ำหนัก 79 กิโลกรัม
ย้ายมาจากสโมสร : ยูเวนตุส เมื่อ สิงหาคม 2010
ค่าตัวในการย้ายทีม : 4.5 ล้านปอนด์
สถิติลงสนามให้ลิเวอร์พูล : 0 นัด ประตู : 0 ประตู

[ สถิตินับถึงก่อนเปิดฤดูกาล 2010-11 ]
 

คริสเตียน โพลเซ่น กองกลางทีมชาติเดนมาร์ก เซ็นสัญญา 3 ปีเข้ามาร่วมทีม ลิเวอร์พูล ในเดือนสิงหาคม 2010 ซึ่งถือเป็นการร่วมงานกับ รอย ฮอดจ์สัน เป็นคำรบที่สอง

โพลเซ่นนั้นถือเป็นนักเตะที่มีประสบการณ์สูงมาก เพราะผ่านการเล่นมาแล้วทั้งใน บุนเดสลีกา, ลาลีกา สเปน และ กัลโช่ ซีรี่ย์ อา และตอนนี้เขาก็จะมีโอกาสได้ สัมผัสประสบการณ์ใหม่กับเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

โพลเซ่น เริ่มต้นฝึกซ้อมฟุตบอลกับ อาสเน่ ทีมท้องถิ่นที่เมืองเกิด ก่อนจะย้าย มาอยู่กับ โฮลเบ็ค และ ก็ได้เซ็นสัญญาระดับอาชีพที่นี่ด้วยวัย 17 ปี

ในปีต่อมาชีวิตของโพลเซ่นก็เริ่มก้าวกระโดดมากขึ้น เมื่อเจ้าตัวสามารถยึด ตำแหน่ง ตัวจริงของโฮลเบ็คได้ และ ได้ก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเดนมาร์ก ยู 19

โพลเซ่นเล่นให้กับ โฮลเบ็ค ไป 2 ฤดูกาล ลงสนามไปทั้งหมด 82 เกม และก็ถูก รอย ฮอดจ์สัน บอสใหญ่ของลิเวอร์พูลคนปัจจุบันนี่เองที่ดึงตัวไปร่วมทีม เอฟซี โคเปนเฮเกน ซึ่งถือเป็นทีมยักษ์ใหญ่ของประเทศในเวลานั้น

ที่นี่เองที่ฮอดจ์สันขัดเกลาให้โพลเซ่นมีความแข็งแกร่ง และ มีลูกล่อลูกชน โดยเฉพาะในเกมรับ ทั้งคู่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของประเทศร่วมกันในปี 2000-01 โดยในปีนั้น โพลเซ่น ยังได้รับเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปี ของ เดนมาร์กอีกด้วย

ฮอดจ์สัน ชิงอำลาโคเปนเฮเกนไปก่อนในช่วงซัมเมอร์ปี 2001 แต่โพลเซ่น เองยังอยู่ที่นี่ และ ก็ช่วยพาทีมคว้าอันดับที่ 2 ในปีต่อมา แม้จะพลาดแชมป์ แต่ด้วย ผลงานที่โดดเด่นทำให้เจ้าตัวได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร

และก็ไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์แต่อย่างใด เมื่อโพลเซ่นมีชื่อติดทีมชาติเดนมาร์ก ชุดใหญ่ในช่วงปลายปีนั้น โดยได้ลงสนามเกมแรกพบกับ ทีมชาติฮอลแลนด์

โพลเซ่นยังมีชื่อติดอยู่ในทีมชาติเดนมาร์กชุดลุยฟุตบอลโลก 2002 ด้วย แต่ได้ เริ่มต้นในฐานะตัวสำรองทั้งสามเกม น่าเสียดายที่เจ้าตัวสะสมใบเหลืองครบ 2

ใบ ทำให้โดนแบนในเกมพบกับ ทีมชาติอังกฤษ ในรอบ น็อกเอ้าท์ พอดี ซึ่งเกมนั้นทีมชาติเดนมาร์กของเขาเป็นฝ่ายพ่ายไป

หลังจบฟุตบอลโลก ชาลเก้ 04 ประทับใจความดุดันและทุ่มเท จึงได้ซื้อตัว โพลเซ่น จากเอซี โคเปนเฮเกน มาร่วมทีมด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร ซึ่งเป็นสถิติการ ย้ายทีมที่แพงที่สุดของลีกเดนมาร์กเลยทีเดียว

โพลเซ่น ได้ประเดิมสนามให้กับ ชาลเก้ 04 ในตำแหน่งแบ็คขวา ก่อนจะได้ กลับมาเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับเหมือนกับที่เล่นให้กับทีมชาติ

ในยูโร 2004 โพลเซ่นก็มีชื่อติดทีมชาติเดนมาร์กอีกครั้ง แต่พวกเขาก็ไปไม่ถึงฝัน เมื่อพ่ายให้กับ ทีมชาติเชคในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ไฮไลท์ของเขาอยู่ที่การมีเรื่อง กับ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ จนทำให้ดาวเตะอิตาลีฟิวส์ขาด โดนแบนยาวหมดอนาคต ในทัวนาเม้นท์นั้นเลย

ฟอร์มของ โพลเซ่น ในฤดูกาล 2004-2005 นั้นถือว่าสุดยอดมาก เขาช่วยพา ชาลเก้ 04 คว้าแชมป์เยอรมัน ลีก คัพ มาครองได้สำเร็จ พร้อมกับจบฤดูกาล ด้วยตำแหน่งรองแชมป์ ซึ่งก็ทำให้เจ้าตัวได้รับเลือกให้เป็น นักเตะยอดเยี่ยม แห่งปีของเดนมาร์ก และก็นับเป็นคนแรกด้วยที่ได้รับรางวัลนี้ 2 ปีติด เพราะในปี 2006 ปีต่อมาเขาก็ยังคงได้รับเลือกให้คว้ารางวัลนี้ซ้ำ

น่าเสียดายที่ในปี 2006 ทีมชาติเดนมาร์กไม่สามารถผ่านรอบคัดเลือก ไปเล่น ฟุตบอลโลกที่เยอรมันได้ และ ตัวโพลเซ่นเองก็เริ่มมองหาความท้าทายใหม่ ๆ

และก็เป็นแชมป์เก่ายูฟ่า คัพ ในเวลานั้นอย่าง เซบีญ่า ที่ให้ความสนใจ และ ตัดสินใจดึงตัว โพลเซ่น มาร่วมทีมด้วย ซึ่งบทบาทแรกของ โพลเซ่น เอง ต้องถือว่าเปิดฉากได้สวยงามมาก ๆ เมื่อเซบีญ่าสามารถเอาชนะ บาร์เซโลน่า คว้าแชมป์ซูเปอร์ คัพ ที่ โมนาโก มาครองได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์รับขวัญเขาเลย ก็ว่าได้

โพลเซ่น เริ่มปักหลักเป็นนักเตะคนสำคัญของ เซบีญ่า ได้และเขาก็มีส่วน ในการพาเซบีญ่าคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพ สมัยที่ 2 ติดต่อกัน รวมถึงถ้วยโคปา เดล เรย์ ด้วย

อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2007-2008 เซบีญ่ามีผลงานน่าผิดหวัง ประกอบกับ ยูเวนตุส ทีมใหญ่แห่งตูรินติดต่อเข้ามาทำให้ โพลเซ่น เลือกที่จะไปหา ความท้าทายใหม่ๆ อีกครั้งในแดนมะกะโรนี

ที่อิตาลี โพลเซ่น ยังไม่ใช่ตัวเลือกแรกโดยอัตโนมัติของโค้ช แต่เขาก็พยายาม ทำหน้าที่ของตัวเองสุดความสามารถเมื่อได้รับโอกาส ในปีแรกยูเวนตุสจบฤดูกาล ด้วยอันดับที่สูงถึงรองแชมป์ แต่ในปีต่อมาพวกเขากลับทำผลงานหล่นอย่างน่า ใจหาย ด้วยการคว้าได้เพียงอันดับที่ 7 ของลีก

ในฟุตบอลโลกที่แอฟริกาใต้ โพลเซ่นยังคงเป็นตัวหลักของทีมชาติเดนมาร์ก โดยได้ลงสนามครบทั้ง 3 เกม แต่ก็ไม่สามาถช่วยให้ทีมชาติเดนมาร์กผ่านเข้า รอบสองได้

หลังฟุตบอลโลก โพลเซ่นได้ทบทวนอนาคตตัวเอง และเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร ที่จะนั่งเป็นตัวสำรอง อดทนเช่นนี้ในถิ่นตูริน ทำให้เจ้าตัวเริ่มแบะท่าอยากย้ายทีม พอดิบพอดีกับที่ รอย ฮอดจ์สัน เพิ่งเข้ามารับงานคุมทีมลิเวอร์พูล และ ก็กำลัง มองหากองกลางตัวตัดเกมชั้นยอดอยู่ จึงได้เริ่มทาบทามโพลเซ่นมาสู่รัง แอนฟิลด์เพื่อที่จะมาร่วมงานกันอีกครั้ง

โพลเซ่นได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับ ดาเนี่ยล แอ็กเกอร์ ปราการหลังชาติเดียวกัน ที่อยู่กับลิเวอร์พูล ซึ่ง แอ็กเกอร์ ก็ให้คำแนะนำที่ทำให้ โพลเซ่น ตอบตกลง ที่จะย้ายมาโดยไม่มีท่าทีที่จะลังเลหรือต้องต่อรองใด ๆ เลย

 
ประวัติการค้าแข้งที่ผ่านมา
ระดับเยาวชน
ฤดูกาล ทีม    
1985-1995 อาสเน่
1995-1997 โฮลเบ็ค    
ระดับอาชีพ
ฤดูกาล ทีม    
1997-2000 โฮลเบ็ค    
2000-2002 เอฟซี โคเปนเฮเกน    
2002-2006 ชาลเก้ 04    
2006-2008 เซบีญ่า    
2008-2010 ยูเวนตุส    
ผลงานกับลิเวอร์พูล
ฤดูกาล ลงสนาม
รวม
ประตู
รวม
2010-2011 0 / 0 / 0 / 0 / 0
0
0 / 0 / 0 / 0 / 0
0
ลำดับในการเรียง : พรีเมียร์ลีก / เอฟ เอ คัพ / ลีก คัพ / บอลยุโรป / อื่นๆ
เกียรติยศ
ฤดูกาล  
2000-2001 แชมปเดนิช ซูเปอร์ลีกา (เอฟซี โคเปนเฮเกน)
2001 ดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของเดนมาร์ก (เอฟซี โคเปนเฮเกน)
2001-2002 แชมปเดนิช ซูเปอร์ลีกา (เอฟซี โคเปนเฮเกน)
2005 แชมปเดเอฟเอ โพคาล (ชาลเก้ 04)
  นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเดนมาร์ก (ทีมชาติเดนมาร์ก)
2006 แชมป์ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (เซบีญ่า)
  นักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเดนมาร์ก (ทีมชาติเดนมาร์ก)
2007 แชมป์โคปา เดล เรย์ (เซบีญ่า)